Matrix Audio MP-1 ปรีแอมป์คลาส A ล้ำสมัยสำหรับผู้รักเสียงเพลง ประสิทธิภาพสูง

Matrix Audio MP-1
ปรีแอมป์คลาส A ล้ำสมัยเครื่องแรกของ Matrix Audio สำหรับผู้รักเสียงเพลง ประสิทธิภาพเสียงที่เหนือชั้น
การออกแบบวงจรอินพุตสเตจอินพุตทรานซิสเตอร์แบบดิฟเฟอเรนเชียลเต็มรูปแบบมีสัญญาณรบกวนต่ำมาก
ให้เสียงที่อบอุ่นและละเอียดอ่อน พร้อมความถี่ต่ำที่ทรงพลังโดยไม่สูญเสียรายละเอียดในเสียงสูง
ไม่ว่าคุณจะฟังเพลงแชมเบอร์หรือวงซิมโฟนีออร์เคสตรา ทุกอย่างจะถูกนำเสนอได้อย่างสมบูรณ์แบบภายใต้การควบคุมของ MP-1 รับประกันการตอบสนองความถี่ที่ราบเรียบยิ่งขึ้นทำให้สามารถนำเสนอเสียงได้เสมือนต้นฉบับ

• ปรีแอมป์คลาส A ล้ำสมัยเครื่องแรกของ Matrix Audio
• ให้เสียงอบอุ่นและกลมกล่อม
• สัญญาณรบกวนต่ำมากและความเป็นเส้นตรงที่ยอดเยี่ยม
• ยูนิตขยายเสียงที่สมดุลเต็มที่อิสระสี่ยูนิต
• มีอินพุต RCA 3 คู่และอินพุต XLR 3 คู่
• มีเอาต์พุต RCA 1 คู่และเอาต์พุต XLR 2 คู่
• ควบคุมระดับเสียงตัวแบ่งแรงดันไฟฟ้าโดยอาร์เรย์ตัวต้านทาน
• หม้อแปลงลวดทองแดงสี่เหลี่ยมและแหล่งจ่ายไฟเชิงเส้น
• โครงสร้างแชสซีรูปตัว H

จุดสำคัญของระบบเครื่องเสียง
ปรีแอมป์ทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมในระบบเสียง ซึ่งคำสั่งที่แม่นยำเท่านั้นที่จะสามารถดึงประสิทธิภาพ
ที่ดีที่สุดจากแหล่งกำเนิดเสียงและเพาเวอร์แอมป์ออกมาได้ MP-1 คือจุดสำคัญในห่วงโซ่
โดยจะต้องประมวลผลเพลงที่อินพุตอย่างถูกต้อง ทำให้มีโทนเสียงและพื้นผิวที่หลากหลาย
ช่วยให้คุณได้ยินเสียงดนตรี เห็นหน้าดนตรี และสัมผัสถึงจิตวิญญาณของดนตรี นอกจากนี้ยังเป็นประติมากรแห่งดนตรีอีกด้วย

ให้เสียงอบอุ่นและกลมกล่อม
การออกแบบวงจรอินพุตสเตจอินพุตทรานซิสเตอร์แบบดิฟเฟอเรนเชียลเต็มรูปแบบมีสัญญาณรบกวนต่ำมาก
และความเป็นเส้นตรงที่ยอดเยี่ยม สเตจเอาต์พุตได้รับการออกแบบให้เป็นเอาต์พุตคลาส A บริสุทธิ์ ที่มีกระแสไบแอสสูง โดยปราศจากการบิดเบือนครอสโอเวอร์ ทำงานภายใต้แหล่งจ่ายไฟที่มีสัญญาณรบกวนต่ำสูงสุดถึง 60V เพื่อให้ได้ช่วงไดนามิกที่ไม่ธรรมดา วงจรเซอร์โว DC เอาท์พุตจะรักษาค่าออฟเซ็ต
จุดกึ่งกลางของเอาท์พุตให้อยู่ภายใน 1mV โดยไม่มีตัวเก็บประจุแบบคัปปลิ้งที่เกี่ยวข้อง รับประกันการตอบสนองความถี่ที่ราบเรียบยิ่งขึ้น ทำให้สามารถนำเสนอเสียงได้เสมือนต้นฉบับ

ประกอบด้วยยูนิตขยายเสียงที่สมดุลเต็มที่อิสระสี่ยูนิต
แต่ละช่องสัญญาณมีหน่วยขยายสองหน่วยทำงานร่วมกัน รับผิดชอบในการขยายสัญญาณในเฟส และสัญญาณกลับด้าน แม้ในโหมดอินพุต RCA สัญญาณจะถูกแปลงเป็นสัญญาณไบโพลาร์
เพื่อการขยายสัญญาณ ช่วยลดสัญญาณรบกวนในโหมดทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับปรุงประสิทธิภาพไดนามิก

อินพุตแบบอะนาล็อกหลายช่อง
MP-1 มีอินพุต RCA 3 คู่และอินพุต XLR 3 คู่ พร้อมความสามารถในการตั้งค่าการลดทอนและการชดเชยระดับสำหรับแต่ละอินพุตได้อย่างอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าแอมพลิจูดของสัญญาณอินพุตทั้งหมด
อยู่ในระดับที่สม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความแตกต่างของระดับเสียงเมื่อสลับระหว่างแหล่งกำเนิดเสียงต่างๆ

แอปพลิเคชันที่ยืดหยุ่น
MP-1 มีเอาต์พุต RCA 1 คู่และเอาต์พุต XLR 2 คู่ สามารถเอาต์พุตพร้อมกันหรือแยกกันได้ เมื่อเอาต์พุตแยกกัน
ระดับเสียงสำหรับเอาต์พุตแต่ละรายการสามารถปรับแยกกันได้ ทำให้ง่ายต่อการได้รับระดับเสียงที่สบาย เมื่อเชื่อมต่อเครื่องขยายสัญญาณเสียงหลายตัวและลำโพงที่แตกต่างกัน เมื่อใช้เอาต์พุต XLR ทั้งสองพร้อมกัน
เป็นไปได้ที่จะเชื่อมต่อเครื่องขยายสัญญาณเสียง 4 ตัวเพื่อขับเคลื่อนไดรเวอร์เสียงกลางถึงสูง
และไดรเวอร์เสียงต่ำของลำโพงแยกกัน เพื่อให้ได้โหมดไบแอมป์

ความแม่นยำในรายละเอียด
MP-1 มีตัวควบคุมระดับเสียงตัวแบ่งแรงดันไฟฟ้าโดยอาร์เรย์ตัวต้านทาน เป็นยูนิตควบคุมระดับเสียงคุณภาพสูงสี่ยูนิตประกอบด้วยตัวต้านทานความแม่นยำ 64 ตัวที่มีความแม่นยำ 0.001 และรีเลย์รีดที่ปิดสนิท 32 ตัว ซึ่ง MCU จะสลับอย่างรวดเร็ว วิธีการควบคุมนี้ไม่เพียงแต่ลดผลกระทบต่อคุณภาพเสียง
ให้เหลือน้อยที่สุด แต่ยังรับประกันความสม่ำเสมอที่ยอดเยี่ยมระหว่างทั้งสองช่องสัญญาณอีกด้วย
เสียงการทำงานของรีเลย์แทบจะไม่ได้ยิน แม้ว่าจะเปลี่ยนระดับเสียงอย่างต่อเนื่องก็ตาม

MP-1 ติดตั้งหม้อแปลง Toroidal ลวดทองแดงทรงสี่เหลี่ยมกำลังสูง 60W สองตัว โดยแยกจ่ายไฟให้กับยูนิตควบคุมระดับเสียงของช่องสัญญาณซ้ายและขวาและยูนิตขยายเสียงหลัก ทำให้ได้การออกแบบช่องสัญญาณคู่ที่เป็นอิสระจากแหล่งกำเนิด ความจุกระแสไฟสูงกว่า และความต้านทานต่ำกว่า ส่งผลให้การตอบสนองชั่วคราวดีขึ้นและมีความถี่ต่ำที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เมื่อจับคู่กับตัวเก็บประจุกรองซีรีส์ M-Lytic AG จาก MUNDORF จะเพิ่มความนุ่มนวลและกลมกล่อมให้กับเสียง

โครงสร้างแชสซีรูปตัว H ซึ่งใช้แผ่นอะลูมิเนียม CNC
ขนาด 20 มม. เป็นโครงสร้างรองรับของอุปกรณ์ทั้งหมดหลังจากผ่านกระบวนการหลายสิบขั้นตอน
โดยทำหน้าที่เป็นแกนหลักของโครงสร้างรูปตัว H ส่วนประกอบทั้งหมดติดตั้งอยู่บนแผ่นอะลูมิเนียม และรองรับน้ำหนักทั้งหมดด้วยขาตั้งสำหรับงานหนักที่ติดตั้งบนคานหลัก
มีการสร้างช่องแยกหลายช่องขึ้น แต่ละช่องมีการวางโมดูลวงจรที่แตกต่างกันอย่างเหมาะสม ลดการรบกวนระหว่างโมดูลวงจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ